
เรื่องราวของชาวต่างชาติที่อยากเป็นนักพากย์ที่ญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความฝันและความหวัง ผู้คนจำนวนไม่น้อยในประเทศญี่ปุ่น ทั้งคนญี่ปุ่นเองและคนต่างชาติที่อยู่และเข้ามาอยู่ในญี่ปุ่นนั้นล้วนแต่มีความฝันและเป้าหมายในชีวิตที่ต้องต่อสู้ฝ่าฝัน
วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องของเพื่อนสาวชาวมาเลเซีย เป็นเพื่อนจากโรงเรียนเซมมงมังงะอนิเมชั่นและเคยเป็นรูมเมทของเรา
เวลาที่เราท้อแท้ เราจะนึกถึงเพื่อนคนนี้ค่ะ ว่าเราพยายามได้ครึ่งของเธอหรือยัง เธอเป็นเพื่อนที่ทำให้เรามีกำลังจะและแรงบันดาลใจจะพยายามและสู้ต่อไป เพราะความฝันของเธอคนนี้คือ
อยากจะเป็นนักพากย์ที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นฝันที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ว่าแล้วเราก็มาพูดถึงเรื่องของเธอดีกว่า
เธอคนนี้มีชื่อว่า 辛 依珊アデル(イーシャン アデル)
เราและเพื่อนๆมักจะเรียกเธอว่า เดรุ
นี่คือtwitterของเธอ https://twitter.com/deru_tweets
(ขออนุญาตเจ้าตัวมาลงแล้ว)
เดรุนั้นถ้ามองผ่านๆจะเหมือนเด็กนักเรียนชาย ม ต้น เพราะนางเป็นสาวตัวเล็กๆน่ารัก แต่ชอบใส่กางเกงและเสื้อยืดตัวใหญ่ๆและตัดผมสั้น เดรุจึงห่างไกลจากคำว่าน่ารักแบบพิมพ์นิยม แต่เป็นคนที่เท่ในแบบของตัวเอง
เดรุเก่งภาษาญี่ปุ่นมาก สมัยที่เรียนโรงเรียนมังงะ อนิเมชั่นนั้น คลาสเรียนวิชามารยาทธุรกิจ เดรุเป็นคนที่เรียนเก่งท๊อปคลาส ตอบคำถามอาจารย์ตลอด แม้แต่คันจิยากๆ เดรุก็เขียนได้และเอาจริงๆ
นางเก่งคันจิกว่าคนญี่ปุ่นในคลาสเสียอีก
ตัวเดรุนั้นจบปริญญาตรีด้านดีไซน์มาจากประเทศตัวเอง เพราะงั้นในคลาสเรียน ไม่ว่าจะคลาสดีไซน์ หรือสเก็ตภาพ เดรุก็มีผลงานที่โดดเด่นเสมอ ตัวเดรุนั้นลึกๆแล้วมีความฝันที่อยากจะเป็นนักพากย์
แต่ตัวเดรุเองรู้ดีว่ามันเป็นไปได้ยากที่คนต่างชาติจะมาทำอาชีพนี้ที่ญี่ปุ่น เดรุจึงเลือกเรียนสายมังงะอนิเมชั่นแทนเพราะเป็นสายที่ใกล้สิ่งที่ตัวเองอยากเป็นมากที่สุด ซึ่งจริงๆตอนนั้นก็มีนักเรียนชาวต่างชาติไม่น้อยที่อยากเป็นนักพากย์แต่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยมาเข้าคณะมังงะ อนิเมชั่นแทน
หลังเรียนจบหลังจากผ่านการหางานอย่างดุเดือด
เพราะสมัยนั้นคนต่างชาติยังหางานลำบากกว่าในสมัยนี้ เดรุได้เข้าทำงานในบริษัทกราฟฟิกดีไซเนอร์แห่งนึง ในตําแหน่ง ux/uiดีไซเนอร์ เงินเดือนดีสวัสดีการดี
แต่เดรุก็ยังไม่สามารถยอมแพ้กับความฝันที่จะเป็นนักพากย์ได้ ตอนนั้นเรากับเดรุอยู่บ้านแชร์เฮาส์ด้วยกัน ซึงในบ้านก็มีคนญี่ปุ่นอยู่ด้วย เดรุมักจะให้คนญี่ปุ่นในบ้านช่วยเช็คสำเนียงให้เสมอ
หลังจากที่ทำงานได้1ปี เรากับเดรุก็ออกจากบ้านแชร์เฮาส์แยกย้ายไปอยู่ใกล้ที่ทำงาน ทุกครั้งที่เจอเดรุก็จะบ่นว่าอยากเข้าโรงเรียนนักพากย์ อยากเป็นนักพากย์ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ประกอบกับงานที่ยุ่งขึ้นเราจึงไม่ได้ติดต่อกับเดรุ
จนกระทั้ง 2 ปีผ่านไป เดรุกลับมาพร้อมกับข่าวว่า ลาออกจากงานแล้วนะ ตอนนี้เรียนอยู่เซมมงนักพากย์
เป็นข่าวที่ทำให้เพื่อนๆตกใจมาก เพราะ ณ ตอนนั้น
เดรุก็อายุ29แล้ว….. มันยากมากและที่สำคัญอาชีพนี้ก็ไม่มีวีซ่าด้วย…..
แต่เดรุนั้นบอกว่าไม่อยากใช้ชีวิตแบบเสียใจที่หลัง พยายามแล้ว
ไม่ได้ก็ยังดีกว่าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยไม่พยายามอะไรตั้งแต่แรก
เดรุใช้ชีวิตนักเรียนอีกครั้งในวัย29ปี พร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นที่อายุน้อยกว่า10ปี….และยังต้องทำงานพิเศษเป็นเด็กเสิร์ฟ แเพื่อเป็น ค่าเทอม
และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
เมื่อถึงช่วงใกล้เรียนจบก็เป็นช่วงตัดสินชะตาชีวิตตัวเองว่าจะได้ไปต่อไหม อาชีพนี้แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ยังยาก และสำหรับคนต่างชาตินั้น แสนยากลำบากกว่า ไม่ว่าจะเรื่องกำแพงทางด้านภาษา และการแข่งขันที่สำคัญ ตอนเรียนจบ เดรุก็อยู่ในวัย เลข3 แล้ว
แต่แล้วความพยายามของเดรุก็เป็นผล เมื่อใกล้เรียนจบ
เดรุสามารถเข้าไปเป็นเด็กฝึกหัดในสังกัดนักพากย์สังกัดนึง
และได้เข้าโรงเรียนฝึกการแสดงของสังกัด( 養成所Yōsei-sho)
ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่นักพากย์ นักแสดงละครเวที จำนวนมาก
ที่ต้องผ่าน ไม่ว่าจะจบอะไรมา ก็ต้องมาเข้าโรงเรียนการแสดงที่เรียกว่า
養成所(Yōsei-sho)ก่อน จากนั้นจึงไปออดิชั่นงาน
และปัญหาก็กลับมาเรี่องเดิมคือ โรงเรียนฝึกการแสดงและสังกัดนักพากย์นั้นไม่สามารถออกวีซ่าให้ได้
แต่ความพยายามและการต่อสู้ของเดรุนั้นคนใกล้ตัวเดรุได้เห็นและเป็นกำลังใจให้เสมอ เพื่อนที่ทำงานบริษัทกราฟฟิกดีไซเนอร์ ได้แยกตัวมาเปิดบริษัทของตัวเอง และชวนเดรุไปทำงานด้วย ด้วยสัญญาพนักงานจ้างชั่วคราว (業務委託 Gyōmu itaku) จึงทำให้เดรุมีวีซ่าทำงานอยู่ญี่ปุ่นต่อไปได้
ชีวิตเดรุนั้นจึง ต้องทำงานทั้งเป็นดีไซน์เนอร์ และนักแสดงฝึกหัดของสังกัดนักพากย์ เดรุแบ่งเวลาทำงาน และไปโรงเรียนการแสดง
ต้องขอบอกก่อนค่ะว่าสมัยนี้ นักพากย์กับนักแสดงละครเวที
แทบจะเป็นวงการเดียวกันค่ะ สังกัดเดียวกันค่ะ เดรุจึงออดิชั้นทั้งงานละครเวทีและงานพากย์
จนกระทั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เดรุก็ได้ขึ้นแสดงละครเวทีเรื่องแรกในชีวิต

และปีหน้าเดรุก็ยังมีงานละครเวทีอีกเรื่องเช่นกัน
แม้จะเป็นเวทีเล็กๆ แม้งานจะยังไม่มากแต่ก็เป็นหลักฐานว่า
ความพยายามที่ผ่านมาของเดรุนั้นไม่มีอะไรที่เสียเปล่า
ทุกวันนี้เดรุก็ยังพยายามต่อไป และหวังว่าสักวันจะได้งานพากย์อนิเมอย่าที่ฝันเอาไว้
ถ้าเพื่อนๆอยากเป็นกำลังใจให้เดรุ รบกวนไปกดฟอลโล่ว
twitterของเดรุด้วยนะคะ
ยอดฟอลโล่ในtwitterนั้นมีผลต่องาน ไม่น้อยเลยค่ะ
เดรุอ่านภาษาอังกษ และญี่ปุ่นออกค่ะ