
แชร์ประสบการณ์ปัญหาเรื่องเสียงคนข้างห้องในญี่ปุ่น
สวัสดีค่ะ วันนี้ไม่มีสาระอะไรมาก
เราแค่อยากมาระบายความทุกข์ใจชีวิตในญี่ปุ่น
และก็อยากให้เพื่อนๆมาร่วมระบายด้วย
หัวข้อในวันนี้ก็คือเรื่องเสียงค่ะ
ห้องพักที่ญี่ปุ่นไม่น้อยจะผนังบางเพดานบาง จึงไม่แปลกที่จะมีปัญหาเรื่องเสียงของข้างห้องหรือเราอาจจะไปรบกวนชาวบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ
เราจะมาเล่าชีวิต10ปีในญี่ปุ่นที่ต้องต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ค่ะ
■หอพักนักเรียน
สมัยนั้นเราอยู่หอพักนักเรียนหญิงของโรงเรียนเซมมง เป็นหอที่ต้องอาบน้ำรวม กินข้าวในโรงอาหาร(ทางหอมีข้าวเช้าและเย็นให้)
ทั้งหอกว่า80เปอร์เซ็นเป็นคนญี่ปุ่น
เราก็คาดหวังว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะหอก็มีกฏว่าอยู่ในห้องต้องใช้หูฟัง หลัง5ทุ่มให้เงียบ
ปรากฏว่าข้างห้องเป็นสายปาร์ตี้ค่าาา นางเรียกเพื่อนในหอมานั่งเล่นนั่งคุย หัวเราะกันยันตีสาม
อาทิตย์ละ3วันเป็นอย่างต่ำ! เราเครียดมากไม่รู้จะทำยังไง คือตอนนั้นเราเป็นกระเหรี่ยงในดงนั้นน่ะค่ะ คนข้างห้อง เนี่ยเพื่อนในหอเยอะ สนิทกับประธานหออีก ถ้าเราปะทะตรงๆก็กลัวจะโดนแกล้งกลัวไปหมด ถ้าฉันโดนดักตบในห้องอาบน้ำจะทำยังไง
แต่!!!ฉันนอนไม่ได้ ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง!! เราจึงไปแจ้งคนดูแลหอ เวลาผ่านไปก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น พวกนางก็ยังปาร์ตี้อยู่
คนดูแลหอบอกว่าให้ประธานหอไปเดินตรวจแล้วไม่เห็นได้ยินเสียงอะไร………….
คืองี้นะคนข้างห้องนางก็สนิทกับคนตรวจอะ เรารู้สึกว่าไม่ได้ละ เลยไปแจ้งทางโรงเรียน
ปรากฏว่าาาาาาาาา
คนดูแลหอเรียกไปตำหนิคร่า ว่าทำไมมีอะไรไม่บอกเค้า ไปแจ้งทางโรงเรียนข้ามหน้าข้ามตาเค้าทำไม(อ้าวก็บอกแล้วคุณไม่ทำอะไรอะ)
คนดูแลหอยังบอกให้เราไปคุยกับห้องข้างๆเองเลย นางเป็นเด็กดีนางต้องเข้าใจ
อ้าวยกกำลัง2สิคะ
ก็ฉันไม่กล้าไปปะทะเองฉันต้องการคนกลางไง
มืด8ด้านค่ะเหมือนโดนแกล้ง เหมือนว่าโลกนี้ถล่ม จริงๆก่อนหน้านี้เราแอบไปคุยกับห้องอื่นๆที่ห่างจากห้องนางไปสามสี่ห้อง เค้าก็หนวกหูกันหมดนะ แต่ไม่มีใครโดนเต็มๆแบบเรา
สุดท้ายเราไม่ไหวแล้ว
นึกออกไหมคะ คนอดนอน คนที่ถึงขีดสุด ความแค้น และความน้อยใจในโชคชะตา ทุกสิ่งทุกอย่างรวมมาอยู่ที่ปลายเท้าเรา เรากระโดดเตะกำแพงอย่างแรง และตามด้วยทุบกำแพงรัวๆ
พอได้ยินเสียงพูดจากห้องข้างๆอีกก็ทุบอีก ก็ให้มันรู้ไปว่าใครจะเงียบก่อนกัน//จริงๆก็ไม่ค่อยดีค่ะ แต่ตอนนั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ
ผลหลังจากนั้นข้างห้องก็ไม่ปาร์ตี้อีกเลย
แต่ย้ายไปปาร์ตี้ห้องอื่นแทน……………….
และพอขึ้นปีสอง ข้างห้องก็ย้ายออกเพราะย้ายไปอยู่กับพี่สาว เราก็ได้ใช้ชีวิตแบบสงบๆ
ต่อมาเข้าสู่ชีวิตทำงาน
■อยู่เป็นบ้านแชร์เฮาาส์(หญิงล้วน)
บ้านไม้เดี่ยวสองชั้นกำแพงบางผนังบาง
ข้างห้องจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
คนแรกเป็นสาวญี่ปุ่นชอบคุยโทรศัพท์กับแฟนตอนตี2-ตี4 คุยแบบเปิดสปีกเกอร์
ได้ยินชัดจนจับใจความได้………………..
พอมันติดๆกันสองสามวัน เราจึงต้องเคาะห้องขอความเห็นใจ………หลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอีก
คนต่อมาคนชั้น1 เป็นสาวเกาหลีที่เดินทีบ้านสั่น เปิดปิดประตูเหวี่ยง จนทางบ้านต้องเอาป้ายมาติดว่าให้เปิดปิดประตูเบาๆ(คิดว่าคนอื่นคงแจ้งไปอะ) แต่นางก็ไม่ได้เบาขึ้นอะ จนเราต้องไปคุยขอความเห็นใจ
ผลคือ ทุกอย่างดังขึ้นกว่าเดิมเหมือนโดนแกล้ง………….
ประกอบกับข้างห้องเราเป็นสองคนย้ายมาอยู่ด้วยกัน ทั้งเดินดังทั้งคุย เรารู้สึกสิ้นหวังมากๆจน ย้ายออกก็ได้ฟร่ะ
ปัจจุบัน
■แมนชั่นเก็บเสียง
เราเช่าแมนชั่นอยู่เพราะไม่อยากมีปัญหาเรื่องเสียงแล้ว แมนชั่นจะเก็บเสียงได้ดีกว่าอาพาร์ทเมนต์ อยู่มา5ปีแล้วก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเสียงคนเลย ไม่เคยได้ยินเสียงห้องข้างๆ แต่มีปัญหาเสียงรถตรงด้านนอกนิดหน่อย
แต่ทว่าล่าสุดไม่กี่เดือนมานี้ ชั้นบนของห้องเราน่าจะย้านมาใหม่ หนวกหูมาก เสียงลากเก้าอี้ เสียงส้นเท้า เสียงเปิดปิดประตู คนที่อยู่ก่อนหน้านี้ไม่ได้หนวกหูขนาดเรารู้สึกว่าเรานอนไม่ได้เลย
และคนใหม่ที่ย้ายมาเค้าจะหนวกหูช่วง 5ทุ่ม-ตี3 เอาเป็นว่าสองเดือนนี้เรานอนประมาณตี3ทุกวันเลย
ล่าสุดเลยติดต่อบริษัทดูแลห้องไป ว่ามีปัญหาแบบนี้ๆช่วยจัดการหน่อย แต่ก็กลัวว่าเค้าจะช่วยไม่ได้ด้วยเพราะแมนชั่นนี่แต่ละห้องก็คนละเจ้าของกัน บริษัทที่ดูแลก็คนละบริษัท และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆแต่ทางบริษัทที่ดูแลห้องเราก็รับปากว่าจะติดต่อคุยให้
ห้ามเราไปคุยเองเด็ดขาด!!!!
สองวันที่ผ่านมาค่อนข้างดีขึ้นเยอะเลย คิดว่าคงมีการตักเตือนกัน ถ้าได้ประมาณนี้ต่อๆไปเราก็ไม่มีปัญหาอะไร
สรุปแล้ว ถ้าเป็นคนที่เซนสิทิฟเรื่องเสียง อยู่แมนชั่นดีกว่าค่ะ เก็บเสียงมากกว่า ถ้ามีปัญหาก็แจ้งไปทางบริษัทที่ดูแลห้อง อย่าปะทะเอง
เพื่อนๆที่มีปัญหาคล้ายๆกันมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ!!!
#ชีวิตในญี่ปุ่น
#หางานในญี่ปุ่น
#เรื่อยเปื่อยในญี่ปุ่น
#คนไทยในญี่ปุ่น
Average Rating